Microsoft เตรียมออกฟีเจอร์ใหม่ ‘Windows Sandbox’

Microsoft ได้เผยถึงฟีเจอร์ใหม่ ‘Windows Sandbox’ หรือการสร้างสภาพแวดล้อมจำลองขึ้นมาซึ่งคอนเซปต์ก็เหมือน VM ทั่วไปซึ่งจะปล่อยมาให้ใช้งานได้ในปีหน้า อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้จะออกมาเฉพาะ Windows 10 Pro หรือ Enterprise Build 18301 ขึ้นไปเท่านั้น โดยจุดประสงค์ก็เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทดสอบซอฟต์แวร์หรือทำงานบางอย่างที่กังวลเรื่องของความมั่นคงปลอดภัย
คุณสมบัติของ Sandbox ที่ทาง Microsoft กล่าวถึงมีดังนี้
  • เป็นส่วนหนึ่งของ Windows – ผู้ใช้งานไม่ต้องไปดาวน์โหลด VHD เพิ่มเติมเพราะฝังเข้ามาในตัว Windows 10 Pro หรือ Enterprise อยู่แล้ว
  • สดใหม่เสมอ – ทุกครั้งที่เรารัน Sandbox สภาพแวดล้อมทุกอย่างจะสะอาดเสมอเพราะระบบจะสร้าง Snapshot OS บนเครื่องเรามาให้เอง
  • ไม่เหลือของตกค้าง – เมื่อเราปิดการใช้งาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นใน Sandbox จะถูกเคลียร์ออกทั้งหมดไม่ค้างในเครื่องผู้ใช้ (ดูภาพได้ตามด้านล่างคือโครงสร้างลิงก์ไฟล์ของโปรเซสไม่ถูกเปลี่ยนไป)
    • มั่นคงปลอดภัย – ด้วยความสามารถของ Microsoft Hypervisor (อันที่จริง Windows เราก็มีฟังก์ชัน Hyper-V กันมาอยู่แล้ว) สามารถช่วยให้ Sandbox มีการแบ่งแยกได้ในระดับ Kernel จากเครื่องจริง
    • ประสิทธิภาพ – มีการใช้งาน Kernel Scheduler, Smart Memory Management และ Virtual GPU ก็คือมีการจัดการทรัพยากรอย่างดี
    สำหรับคนที่กังวลว่าจะช้าไหมจะใหญ่หรือเปล่าทาง Microsoft ได้ใช้คอนเซปต์ของ Container ดังนั้นไฟล์จึงมีขนาดเล็กประมาณ 100 MB และติดตั้งได้ง่ายเหมือนเปิดแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมขึ้นมาตัวหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้กรณีช้าทางโฮสต์สามารถเรียกคืนหน่วยความจำจาก Sandbox ได้เมื่อต้องการ รวมถึงยังสามารถปรับแต่งค่าการใช้แบตเตอรี่เมื่อใช้กับโน๊ตบุ๊คได้
    ความต้องการเบื้องต้นในการใช้งาน
    • Windows 10 Pro หรือ Enterprise Build 18301 ขึ้นไป
    • x64
    • ต้องเปิดความสามารถ Virtualization ใน BIOS ด้วย
    • แรมอย่างน้อย 4GB หรือมากกว่า
    • มีพื้นที่ว่างอย่างน้อย (1GB แนะนำเป็น SSD)
    • CPU อย่างน้อย 2 คอร์ (แนะนำที่มีความสามารถ Hyperthreading)
    ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Blog ของ Microsoft

Comments

Popular posts from this blog

นักวิจัยปล่อยโค้ดที่ทำให้เกิดจอฟ้ากับเครื่อง Windows จำนวนมากบน GitHub

ผู้เชี่ยวชาญพบมัลแวร์ใช้ Windows BITS เพื่อติดต่อเซิร์ฟเวอร์ควบคุม

รู้สาเหตุแล้ว ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เน็ตช้าเพราะสายเคเบิลใต้ทะเลขาด