งานวิจัยเผยช่องโหว่บน 4G และ 5G สามารถบล็อกการโทรและติดตามพิกัดเหยื่อได้
กลุ่มนักวิจัยจาก Purdue University และ University of Iowa ได้ร่วมกันตีพิมพ์ผลงานวิจัยเกี่ยวกับการค้นพบช่องโหว่บนเครือข่าย 4G และ 5G บน Paging Protocol ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถสกัดกั้นการโทรและทราบถึงพิกัดของเหยื่อได้
งานวิจัยดังกล่าวได้พูดถึงช่องโหว่ 3 ส่วนคือ
- Torpedo – เป็นช่องโหว่บน Paging Protocol (Carrier ใช้เพื่อแจ้งไปยังโทรศัพท์ก่อนการโทรและข้อความจะมาถึง) โดยนักวิจัยพบว่าการโทรและยกเลิกในคาบเวลาสั้นๆ หลายครั้งอาจทำให้เกิด Paging Message โดยปราศจากการแจ้งเตือนอุปกรณ์ของเหยื่อได้รับโทรเข้าซึ่งสามารถนำไปสู่การติดตามพิกัดของเหยื่อได้ นอกจากนี้การทราบถึง Paging Occasion ของเหยื่ออาจทำให้เกิดการ Hijack Paging Channel และการ inject หรือปฏิเสธ Paging Message ได้ด้วยการทำ Spoofing หรือบล็อกข้อความก็ได้
- Piercer เป็นเหตุสืบเนื่องมาจาก Torpedo คือผู้โจมตีสามารถหาเลข international mobile subscriber identity (IMSI) ได้
- IMSI-Cracking Attack มาจาก Torpedo เช่นกันคือสามารถ Brute-force เลข IMSI ในเครือข่าย 4G และ 5G ที่มีการเข้ารหัสเลข IMSI ไว้
สำหรับผลกระทบนั้นนักวิจัยได้อ้างถึงผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ชื่อดังอย่าง AT&T, Verizon, Sprint และ T-mobile ว่าได้รับผลกระทบจาก Topedo ทั้งหมด อย่างไรก็ถามทางทีมงานได้แจ้งช่องโหว่แก่ GSMA ไปเพื่อให้แก้ปัญหาเรื่อง Topedo และ IMSI-Cracking ก่อนส่วน Piercer จะขึ้นกับแต่ละ Carrier เท่านั้น
Comments
Post a Comment