ทราฟฟิคการใช้งานเว็บกว่า 20% เกิดจากบอทที่มีจุดประสงค์ไม่ดี

Distil Networks ได้จัดทำรายงานจากของทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตจากปี 2018 พบว่า 37.9% เกิดขึ้นจากบอท ทั้งนี้มี 20.4% ที่เกิดขึ้นจากบอทที่มีเจตนาไปในทางไม่ดีหรือ ‘Bad Bot’ เช่น ตั้งใจทำ DoS, เข้าไปกวาดในเว็บเพื่อขโมยข้อมูล, สร้างเนื้อหาและรีวิวปลอม รวมไปถึงทำให้ดูว่ามีคนเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์มาก เป็นต้น
สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Bad Bot มีดังนี้
  • กลุ่มเว็บไซต์เป้าหมายอันดับหนึ่งคือ ธุรกิจการเงิน และรองลงมาได้แก่ ระบบตั๋วเข้าชมต่างๆ การศึกษา ตามลำดับ (ดูรูปเพิ่มเติมได้ด้านบน)
  • 26.4% สามารถถูกตรวจจับและป้องกันได้ง่าย
  • 52.5% ถูกจัดอยู่อยู่ในระดับปานกลางเพราะเริ่มใช้วิธีการที่สลับซับซ้อน เช่น Headless Browser Software หรือ JavaScript เข้ามาช่วย
  • 73.6% อยู่ในกลุ่ม Advanced Persistent Bot เพราะมีความแนบเนียนคล้ายมนุษย์ เช่น สุ่ม IP หรือเลียนแบบการใช้งานของมนุษย์ด้วยการสร้าง Mouse Event ให้คล้ายกับว่ามีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์จริงๆ
  • Amazon เป็นฐานของ Bad Bot ถึง 18% ซึ่งเพิ่มจากปี 2017 ที่ 10.62%
  • 50% ใช้ Chrome เป็น Agent
  • 73.6% มาจากดาต้าเซ็นเตอร์ลดลงจากปี 2017 ที่ 82.7%
  • อเมริกาคือฐานของ Bad Bot อันดับหนึ่งที่ 53.4% รองลงมาคือ เนเธอแลนด์และจีน
  • ประเทศที่ถูกบล็อกไอพีมากที่สุดคือ รัสเซีย ยูเครน และอินเดีย
ผู้สนใจสามารถอ่านรายงาน “Bad Bot Report 2019: The Arms Race Continues

Comments

Popular posts from this blog

นักวิจัยปล่อยโค้ดที่ทำให้เกิดจอฟ้ากับเครื่อง Windows จำนวนมากบน GitHub

ผู้เชี่ยวชาญพบมัลแวร์ใช้ Windows BITS เพื่อติดต่อเซิร์ฟเวอร์ควบคุม

รู้สาเหตุแล้ว ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เน็ตช้าเพราะสายเคเบิลใต้ทะเลขาด