พบปัญหา Windows 10 บูทไม่ขึ้นเมื่อทำ System Restore หลังจากอัปเดต Windows ต้องแก้ด้วย Windows RE เท่านั้น
Microsoft ได้ออกมาแจ้งถึงการค้นพบปัญหาที่ผู้ใช้งานจะไม่สามารถบูท Windows 10 ได้หากมีการทำ System Restore หลังจากที่มีการอัปเดต Windows 10 ไป และต้องการย้อนระบบไปก่อนหน้าการอัปเดตนั้นๆ ซึ่งการแก้ไขปัญหานี้ต้องใช้ Windows Recovery Environment หรือ Windows RE / WinRE เท่านั้น
ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการที่ Windows 10 นั้นจะทำการโหลด Driver รุ่นล่าสุดจากอัปเดตล่าสุดขึ้นมาก่อนในระหว่างการบูทระบบหลังการทำ System Restore ทำให้หากจุดที่ต้องการกู้ระบบนั้นอยู่ก่อนหน้าอัปเดตล่าสุด Driver Version ที่จะต้องใช้ในจุดที่ต้องการกู้ระบบนั้นรุ่นจะไม่ตรงกัน และทำให้การ Restart ไม่สำเร็จนั่นเอง
ทั้งนี้เมื่อผู้ใช้งานพบว่าระบบที่ตนเองทำการ Restore นั้นมีปัญหา ก็สามารถทำการ Restart ระบบอีกครั้งหนึ่งเพื่อเข้า Windows Recovery Environment ด้วยตนเองได้ทันที และทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เข้าไปที่ Troubleshoot > Advanced options > More recovery options > Startup settings แล้วเลือก Restart now
- ใน Startup Settings ให้เลือก Disable driver signature enforcement (บางระบบอาจต้องใช้ปุ่ม F7 เพื่อเข้าถึงการตั้งค่านี้)
- ปล่อยให้ระบบทำการกู้ระบบต่อไป เมื่อ Windows ทำการ Restart ตนเองอีกครั้ง ระบบควรจะกลับมาทำงานปกติ
สำหรับบางกรณีที่ระบบเกิดแครชจากความผิดพลาดในการทำ System Restore ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้บน Windows
- เลือก Start > Settings > Update & Security > Recovery
- เลือก Advanced Options > Restart Now
- เมื่อ WinRE บูทขึ้นมา เลือก Troubleshoot > Advanced options > System restore
- ใส่ Recovery Key ที่ปรากฏ แล้วทำตามขั้นตอนของ System Restore Wizard ต่อไป
Comments
Post a Comment