รู้จักกับ Windows Virtual Desktop อีกทางเลือกของการ Work from Home ผ่าน Desktop บน Cloud

ในช่วงเวลานี้เหล่าผู้พัฒนาเทคโนโลยีต่างก็เร่งนำเสนอโซลูชันของตนเองออกมาเป็นทางเลือกให้แก่เหล่าองค์กรในการตอบโจทย์ Work from Home และสำหรับทาง Microsoft เองก็มีโซลูชัน Windows Virtual Desktop ซึ่งเป็นบริการ Cloud Desktop บน Microsoft Azure ที่เปิดให้เหล่าธุรกิจองค์กรสามารถใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ให้พนักงานสามารถทำการ Remote เข้ามาใช้งานและเชื่อมต่อไปยัง Business Application ขององค์กรได้อย่างง่ายดายและมั่นคงปลอดภัย

ทำความรู้จักกับ Windows Virtual Desktop กันอย่างรวดเร็ว

Windows Virtual Desktop หรือ WVD นี้เป็นบริการ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) ของทาง Microsoft ที่มีให้ใช้งานได้ผ่าน Microsoft Azure โดยถูกพัฒนามาให้สามารถบริหารจัดการได้ง่าย, รองรับการใช้ Windows 10 แบบ Multi-Session ได้, พัฒนาขึ้นมาให้ทำงานร่วมกับ Office 365 ProPlus ได้เป็นอย่างดี และรองรับระบบที่ใช้ Remote Desktop Services (RDS) เป็นหลักได้
การเริ่มต้นใช้งาน WVD นี้สามารถทำได้อย่างง่ายดายภายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และ WVD นี้จะถูกปกป้องด้วยเทคโนโลยีด้านความมั่นคงปลอดภัยของ Microsoft Azure โดยตรง ทำให้มั่นใจได้ในการใช้งาน

จุดเด่นของ Windows Virtual Desktop

สำหรับจุดเด่นของบริการ Windows Virtual Desktop นี้ก็มีหลากหลาย ได้แก่
  • เริ่มต้นใช้ระบบ VDI อย่างเต็มความสามารถบน Cloud ได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้งและดูแลรักษาระบบที่มีความซับซ้อนสูงนี้ด้วยตนเอง และบริหารจัดการ Virtual Desktop ทั้งหมดได้จากศูนย์กลาง
  • สามารถสร้างประเภทของ Virtual Desktop ได้หลากหลาย รองรับ Workload ได้หลายรูปแบบตามความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละแผนก
  • สามารถสร้าง Image สำหรับ Virtual Desktop เองได้
  • รองรับการใช้ Windows 10 Enterprise Multi-Session ที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้เป็นอย่างมากสำหรับการรองรับผู้ใช้งานหลายคน
  • รองรับการสร้าง Persistent Desktop สำหรับให้ผู้ใช้งานแต่ละคนมี Virtual Desktop พร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเป็นของตนเองพร้อมรองรับการปรับแต่งการใช้งานตามต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคนได้
  • รองรับการใช้งาน Office 365 ProPlus บน VDI หรือ Application Pool เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้โปรแกรมสะดวกยิ่งขึ้น
  • รองรับการใช้ Windows 10 และ Windows 7 ได้ โดยสำหรับ Windows 7 ที่องค์กรต้องนำ License เดิมมาใช้ จะมี Extended Security Updates แถมให้ฟรีอีกถึง 3 ปี
  • รองรับ Windows Server 2012 R2/2016/2019
  • รองรับการใช้งานได้จากทั้ง Windows, macOS และ iOS ส่วนบน Android ยังเป็น Preview อยู่ หรือจะเข้าใช้งานผ่าน Web Browser ด้วย HTML5 Client ก็ได้
จะเห็นได้ว่าบริการ WVD จาก Microsoft นี้มีความแตกต่างจากโซลูชัน VDI และ Cloud Desktop จากผู้ให้บริการอื่นอยู่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถที่อิงกับความเป็น Microsoft นั้นก็ถือว่าน่าสนใจสำหรับธุรกิจองค์กรที่ส่วนใหญ่ก็ใช้งาน Windows กันอยู่แล้วไม่น้อยทีเดียว

Comments

Popular posts from this blog

นักวิจัยปล่อยโค้ดที่ทำให้เกิดจอฟ้ากับเครื่อง Windows จำนวนมากบน GitHub

ผู้เชี่ยวชาญพบมัลแวร์ใช้ Windows BITS เพื่อติดต่อเซิร์ฟเวอร์ควบคุม

รู้สาเหตุแล้ว ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เน็ตช้าเพราะสายเคเบิลใต้ทะเลขาด